หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

SWATCHES & REVIEW : LA SPLASH LIP COUTURE ลิปเนื้อแมต สีแน่น ติดทน กับ 4 ลุ๊ค เป็นใครจะอดใจไหว

สวัสดีค่ะ 
เพลินกลับมาพร้อมสว๊อซลิปสติกอีกแล้วค่าาาา หลังจากห่างหายจากการสว๊อซไปนาน วันนี้กลับมาพร้อมลิควิดลิปสติกจากฝั่งอเมริกากันบ้าง มันดีจริงๆ เป็นหนึ่งในลิปที่เราปลื้มมากกกกกก เราขอนำเสนอ La Splash Lip Couture เมื่อปีที่แล้วตอนเบื่อๆเราก็ดูนู่นนี่บน instagram ไปเรื่อยๆจนไปเจอรูปลิปสติกจากแบรนด์นี้ ต้องบอกเลยว่าอย่างกับ Love at first sight  คือเห็นแล้วปิ๊ง ตามันวาวเป็นประกาย เราก็เลยตามไปดูจากเวปไซส์ของเค้า http://lasplashcosmetics.com/home/ โหววววว ละลานตามาก ตั้งแต่สีนู้ด จนเข้ม จนสีแปลกๆอย่าง เขียว น้ำเงิน เทา น้ำตาล เราก็จัดการ add to basket ไปซะหลายแท่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อ เพราะทำใจเสียค่าส่งไม่ได้ จนเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว เวปขายเครื่องสำอางค์ที่อังกฤษก็นำเข้ามาขาย เรานี่ดีใจจนเนื้อเต้น คือเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอาสีไหนก่อนดี ไม่กล้าสั่งมาเยอะเพราะเท่าที่มีอยู่ก็ใช้ได้จนชาติหน้า  สรุปเราเลยได้มา 4 แท่ง (นี่ขนาดไม่กล้าสั่งเยอะนะ) จาก เวปนี้ 

ต้องบอกตามตรงว่าเราไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าที่ไทยขายไหม อาจจะต้องพรีออเดอร์ แต่ถ้าใครมีโอกาสไปอเมริกา หลังจากอ่านรีวิวแล้วถ้าชอบก็อย่าลืมสอยมาเชยชม (ใช้คำได้บ่งบอกอายุอีกละ -__-") 

เอาหล่ะมาเริ่มรีวิวเลยดีกว่า อย่างแรกเลยก็คือแพกเกจจิ้ง จริงๆมันก็เป็นตามสไตล์ liquid lipstick ทั่วไปที่เป็นแท่งๆ ถึงราคาจะอยู่ในโซนกึ่งดรักสโตว์ ตกแท่งละ £9.5 หรือประมาณ 500 บาท แต่เค้าก็ทำออกมาดูดี ไม่ได้ดูก๊องแก๊ง ตัวฝากับชื่อแบรนด์บนแท่งทำจากสีทอง  เลยทำให้ดูหรูขึ้นมาอีก พอหมุนเปิดออกมาก็จะเจอตัวแปรงทาแบบฟองน้ำตามรูปด้านบน ด้วยความที่หัวมันมน บางทีการทาบริเวณมุมปากอาจทำให้เลอะได้ ถ้ารู้สึกไม่ถนัดเราแนะนำให้ใช้พู่กันทาปากแทน หรืออาจจะลงลิปไลเนอร์ก่อนก็ได้ แต่ด้วยความขี้เกียจ เราก็ฟาดจากแปรงฟองน้ำของมันไปเลย 55555 

เราได้มาทั้งหมด 4 สี คือสี Poison apple, Forbidden, Summer bliss และ Hidden desires สีสันสดใสเหมาะกับใช้ในช่วงหน้าร้อน ส่วนคุณสมบัติของตัวลิปนี้หน่ะหรอ อย่างแรกที่จะสัมผัสได้ตอนที่ทาลงบนปากคือ กลิ่น เป็นอย่างเดียวที่ไม่ประทับใจ กลิ่นค่อนข้างแรง ออกแนวเหมือนกลิ่นเคมีๆ แต่ก็ยังดีที่กลิ่นมันอยู่ไม่นาน หลังจากทาไปไม่นานพอลิปเริ่มแห้งกลิ่นก็จะหายไป ส่วนเรื่องสีในหลอดเห็นสียังไงก็ได้ตามนั้นเป๊ะๆบนปาก ตอนทาอาจจะรู้สึกว่าทำไมมันไม่รู้สึกหนาเหมือนliquid lipstick ตัวอื่น แต่ไม่ต้องห่วงพอมันแห้งจะเห็นสีชัดเจนมาก เม็ดสีแน่น ทารอบเดียวก็เอาอยู่ เราไม่แนะนำให้ทาทับหลายรอบเพราะลิปมันจะจับตัวกันแน่นเกินแล้วอาจจะทำให้ลิปกร่อนออกมาเป็นแผ่นได้ ทาไปไม่ถึงนาทีลิปก็เริ่มแห้ง กลายเป็นเนื้อแมต ความรู้สึกตอนที่มันแห้งก็จะรู้สึกว่าเหมือนมีฟิล์มอยู่บนปาก แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกระคายเคืองอะไร เรากลับชอบนะ เพราะมันทำให้รู้ว่าลิปยังอยู่ดี ไม่ทำให้ปากเราดูแห้งจนเกินไป แถมไม่ตกร่องด้วย ไม่เหมือนตัว MUA velvet lipstick ที่เราเคยรีวิวไปเมื่อนานมาแล้วตัวนั้นแอบตกร่อง แต่ตัวนี้ไม่มีปัญหานั้นเลย นอกจากนี้ทางแบรนด์เค้าเคลมด้วยนะว่าลิปตัวนี้กันน้ำ ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เค้าเคลมนั่นแหละ อาจจะมีบางส่วนด้านในปากที่หลุดออกมาบ้างเวลากินอาหาร แต่ก็ไม่ได้ทำให้มีปัญหาจนถึงต้องเติมปาก ถ้าชีวิตโดยปกติไม่ได้ กินของมันมาก เราว่าลิปตัวนี้อยู่ได้ยันเย็น โดยไม่ต้องห่วงว่าต้องเติมระหว่างวันเลยนะ ด้วยความที่มันทนมากปัญหาจะเกิดก็ต่อเมื่อตอนจะล้างออกเนี่ยแหละ จริงๆทางเวปเค้าถึงกับมีตัวรีมูฟเวอร์สำหรับลิปของเค้าเลยนะ แต่เราเราใช้รีวูฟเวอร์ที่มีส่วนผสมของ oil แทน เราว่าพวก micella water มันก็ใช้ได้แหละ แต่มันต้องใช้เวลาในการขัดถูเจ็บปากเปล่าๆ เราเลยใช้ตัวที่เป็นครึ่งน้ำครึ่งออยของ Garnier (ตัวที่เราใช้ไม่น่าจะขายในไทย) ในการเช็ดออกซะเลย เคยมีครั้งนึงเรารีบอาบน้ำมาก แล้วเช็ดลิปไม่หมด ตอนเช้ามายังมีบางส่วนติดบนปากอยู่เลยของเค้าดีจริงๆ 




และนี่ก็คือสว๊อซลิปที่สีตัว สีแดง Poison apple นี่จริงๆมันมีกลิตเตอร์ด้วยนะ แต่ถ่ายมาแล้วอาจจะไม่เห็นเพราะมันเป็นกลิตเตอร์เล็กๆ ช่วยกระจายแสง ทาแล้วสวยมากกกก ส่วนจากรูป Forbidden กับ Summer Bliss อาจจะดูสีคล้ายๆกันแต่ Forbidden ความจริงสีมันชมพูแปร๊ดกว่ามาก Summer Bliss จะออกแนวชมพูที่มีส่วนผสมสีส้มๆเล็กๆก็จะดูเป็นชมพูที่ซอฟลงมาหน่อย ส่วนสีสุดท้ายนี่ทาแล้วเกิด สีสวย และแปลกตาดี เราชอบ
ปิดท้ายด้วยลุ๊ค 4 ลุ๊ค กับแว่นตาหนึ่งอัน เห็นม่ะ แค่เปลี่ยนสีลิปสติก ลุ๊คก็เปลี่ยนแล้ว หวังว่าเพื่อนจะชอบรีวิวนี้กันน้า แล้วเจอกันใหม่โพสหน้า 
Mwahhh
xxx

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น